- คนกรุงเทพฯ ที่ไม่มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงมีโอกาสเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มั่นคงเพิ่มมากขึ้น
- ระบบการออมและสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ส่งเสริมการมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงให้กับชุมชน
โครงการบ้านมั่นคงเป็นโครงการที่อยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน จัดทำขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยทั้งในเขตเมืองและชนบทโดยการสนับสนุนในมิติต่าง ๆ เช่น สนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มการภายในชุมชนเพื่อจัดการเรื่องที่อยู่อาศัย สนับสนุนสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับชุมชนที่สามารถหาที่มีการออมและหาที่ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยได้ [1] [2]
ดังนั้น กทม. จะสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวความคิดบ้านมั่นคง ผ่านการร่วมกันแก้ไขปัญหาระหว่าง ชุมชน กทม. และภาครัฐที่เกี่ยวข้องโดยแบ่งมิติการทำงานออกเป็น 3 ขาแห่งความสำเร็จคือ ที่ดิน การออม และการช่วยเหลือของรัฐ
ที่ดิน
- เก็บข้อมูลรายละเอียดแปลงที่ดินที่มีประสิทธิภาพสำหรับการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย (land stock) ทั้งพื้นที่ดินของเอกชนที่ไม่มีการพัฒนา พื้นที่ว่างไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือใช้ประโยชน์ที่ดินไม่เต็มประสิทธิภาพของภาครัฐ โดยมีรายละเอียดพื้นที่ เช่น ขนาดพื้นที่ กรรมสิทธิ์ ขนาดความกว้างถนนติดแปลงที่ดินและระยะต่าง ๆ ตามกฎหมายควบคุมอาคารและผังเมืองที่สามารถให้พัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยได้ เพื่อสามารถพิจารณาพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาที่อยู่อาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ศึกษาการนำแปลงที่ดินที่ไม่สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยได้จากกฎหมายควบคุมอาคารและผังเมือง เพื่อรวบรวมในการมาปรับปรุงให้สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยได้มากขึ้นผ่านการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการเคหะแห่งชาติ หรือสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) เช่น พื้นที่ย่านรามคำแหงที่ติดข้อกำหนดระยะความกว้างถนน หรืออาศัยอำนาจจากกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้น ผ่อนผัน หรือกําหนดเงื่อนไข ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารสําหรับอาคารในโครงการที่รัฐจัดให้มีหรือพัฒนาเพื่อเป็นที่อยู่สําหรับผู้มีรายได้น้อย พ.ศ. 2554 ที่ให้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถยกเว้น ผ่อนผันกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย
การออม
- ให้ความรู้กับชุมชนเกี่ยวกับการรวมกลุ่มการออมและการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ชุมชน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้เกิดที่อยู่อาศัยที่มั่นคง จากการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชนในการสร้างระบบการออมที่ช่วยเหลือกันทั้งชุมชน เพื่อให้สามารถนำเงินออมไปเป็นเงินตั้งต้นในการพัฒนาที่อยู่อาศัยและเข้ากลไกการสนับสนุนของรัฐได้ เช่น กลไกของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ที่มีการจัดตั้งสหกรณ์เพื่อส่งเสริมการออมในชุมชนในการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยให้กับชุมชน
การช่วยเหลือของรัฐ
- ช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนผ่านการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนศูนย์ดูแลเด็กเล็กตั้งแต่ 0-3 ปี ในชุมชนเพื่อให้เกิดการดูแลเด็กเล็กในช่วงที่ผู้ปกครองทำงาน ลดค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรหรือส่งเสริมคุณภาพชีวิตเด็กในชุมชน ให้การสนับสนุนค่าเรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากที่ภาครัฐดูแล สนับสนุนค่าอาหารให้นักเรียน และเพิ่มช่วงเวลาที่นักเรียนสามารถอยู่ในโรงเรียนสังกัด กทม.มากขึ้น เพื่อรอระหว่างผู้ปกครองเลิกงาน เพิ่มประสิทธิภาพศูนย์บริการสาธารณสุขให้มีศักยภาพมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปโรงพยาบาล
การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน (มากกว่าบ้าน)
-เช่น ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพให้กับคนในชุมชน โดยยึดหลักความต้องการมาจากชุมชนว่าอยากฝึกอะไร โดยมีหลักคือต้องการสร้างระบบการจัดการให้ชุมชนสามารถดูแลตัวเองได้ และพัฒนาศูนย์ดูเด็กอ่อน-เด็กเล็กให้พ่อแม่สามารถออกไปทำงานได้ ในขณะที่เด็กมีคนดูแลอย่างมีคุณภาพ
*อัพเดตล่าสุดวันที่ 26 เมษายน 2565
- More Bangkok people who do not have secure houses can have access to secure housing.
- Savings system and savings cooperatives that support secure housing for communities.
The secure housing project is under the governance of the Community Organizations Development Institute. It has been initiated to solve housing problems for low-income people in the urban and countryside areas. The project supports many activities such as cooperation among community people to manage housing, and loans for housing development for communities with savings services and land for housing development [1] [2]
Therefore, the BMA will support housing development under the secure housing project, through the cooperation among the communities, BMA, and the related government agencies, by working on three aspects: land, savings, and government aid.
Land
- To collect information on land with potential for housing development (land stock): undeveloped private land and unused or underused government land. The information concerns size, ownership, the width of the road next to the plot, and distances, under the building control and urban planning law, for a better decision on potential land for housing development.
- To find a way to adjust land unsuitable for housing development to make it more suitable, pursuant to the building control and urban planning law, through the cooperation with related agencies, such as the National Housing Authority or the Community Organizations Development Institute. One example of these areas is Ramkhamhaeng area, where a limitation on road width is imposed. BMA can also rely on the Ministerial Regulations re: Exception, Relaxation, or Determination of Conditions in Complying to the Building Control Law for Buildings Provided or Developed by the Government as Houses for Low-Income People B.E.2554 (2011). The Ministerial Regulations authorize local administrative organizations to grant exceptions and relaxation under the building control law for developing housing for low-income people.
Savings
- To educate communities on establishing a community savings cooperative, which is an important mechanism for secure housing. Community members' participation in creating a savings system will result in a fund for housing development and joining the government's aid mechanism, such as the mechanism of the Community Organizations Development Institute, which has established cooperatives to promote savings in communities for housing development.
Government Aid
- To reduce people's cost of living through infrastructures, such as small children (0-3 years) daycare centers in communities to support parents who have to work during the day, thereby reducing their child care cost and promoting children's quality of life; tuition-free schools on top of other government's benefits; providing fund for students' food; increasing the time that students can stay in BMA's school to facilitate students who have to wait for their parents to finish work; optimizing public health centers; and reducing the cost of traveling to hospitals.
Promoting and Supporting the Development of Quality of Life in Communities (More than Home)
- To establish daycare centers for infants-children so that their parents can work outside; to establish vocational training and development centers to train people in the communities based on their needs, with the main focus on helping people to be self-reliant.